วันอังคารที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2552

นิทานหิ่งห้อย

หลังจากที่เรียนCD5 เสร็จก็มีโอกาสได้ไปอัมพวา เอิกเกริก นะกูนิ
เอาเป็นว่าฝนตกไปถึงก็ประมาณ6โมงเย็นพอดี โอ้แม่เจ้า...ผู้คนดูเอิกเกริกมาก ราวกับมีงานวัด
อยากจะบอกว่าก็ประทับใจนะว่าสามารถทำให้หมู่บ้านเล็กๆเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่แลดูเก๋ตลอดเวลา
อาหารข้างทางอร่อยมาก แต่ที่แปลกคือ....ข้าวราดแกงเป็นชิ้นๆรสๆ
นั้นนะสิมันก็อร่อยนะ ก้อนละห้าบาทอิ่มเชียว
ประเด็นไม่ได้อยู่ที่นั้นมันอยู่ที่ นั้งเรือไปดูหิ่งห้อย คนละ60บาท ไอ้เราก็อะมาแล้วไปดูสิ
ก่อนจะลงท่าเรื่อง มันก็มีหลายเจ้านะ แต่ประเด็นคือ
เกือบทุกท่าเรือลงไปดูหิ่งห้อย จะมีคุณลุงคุณป้ามาร้องคาราโอเกะกล่อมลงเรือ
แล้วถ้าเรามองปั๊บ คุณลุงก็จะหันมาสบสายตาพร้อมกับยักคิ้วหลิ่วตาให้.....
ไม่เว้นแม้แต่ร้านอาหารและร้านตัดผม
ก็จะมีคุณลุงคุณป้าร้องเพลงให้ฟัง ไม่ได้ร้องแบบสนุกนะบางคนดูซีเรียสเหมือนแกกำลังประกวดอยู่
เอ้า ....ก็ผ่านหลายท่านะส่วนมากก็มีโฮมสเตย์เยอะ แล้วคนในบ้านก็จะปาร์ตี้กันเม้ามอยกันไป
(ขอบอกก่อนว่ากูนั้งเรือหน้าสุด) พอเริ่มเข้าที่มืดซึ่งมืดจริงๆ
ก้จะเห็นหิ่งห้อยซึ่งไม่ขยับ อยู่ตามต้นลำพู (ทำไมต้องต้นนี้ล่ะ) แบบว่าเปล่งแสงพร้อมกันราวกับต้นคริสมาส
พอเอาไฟส่องก็หาย แต่ทำไมมันไม่ขยับไปไหนล่ะ หรือมันเป็นไฟคริสมาส
พี่น้องเหตผลคือ......ถ้ามันบินออกมาจากต้นลำพู นกจะมากินมันทันที
แต่พอดูนานๆก็เบื่อนะ เพราะเรือจะพาเราไปดูประมาณชั่วโมง ดูหิ่งห้อยจนตาแฉะ ดาวบนฟ้าสวยกว่าเยอะ
แต่มีเรื่องน่ากลัวด้วยนะ เพราะมันมืดมาก...
มันก็ผ่านท่าเรือหนึ่งซึ่งมีเงาตะคุ้มอยู่บนท่าว่าเป็นสัตว์เลื้อยคลานอะไรสักอย่าง
แล้วข้างๆมันคือรูปปั้นตัวอะไรไม่รู้น่ากลัวโค้ด (คิดสภาพหนังเรื่องนางนากอะ ประมาณนั้น)
ขากลับเขาขับเร็วมาก แล้วน้ำมันก็กระเซ็นใส่หน้าจ๊า.......

วันอาทิตย์
วันนี้ต้องไปดูละครเวทีแม่นาคพระโขนงเดอะมิวสิเคิล
เอิกเกริกนะ ไม่เศร้าเพราะไม่อินด้วยเราถูกปลูกฝังว่าแม่นาคต้องน่ากลัวเลยไม่เศร้าทั้งๆที่หนังเศร้า
แต่ดูฉากก็คุ้มแล้ว บางทีก็มีผีวิ่งมาจากไหนไม่รู้ คนดูก็กรี๊ด บางทีแม่นาคก็สลิงลอยมาหาคนดู มันน่ากลัวนะ
ฉากก็ดี แต่ตลกธงๆอะ ฮาๆๆ
เดี๋ยวมาเล่าให้ฟังอีกเบื่อแระ
บาย...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น